แผนปล้นซอมบี้เดือด หลังจากที่ Zack Snyder สร้างความฮือฮาเมื่อต้นปี 2021 เมื่อโปรเจ็กต์สาธารณะของเขา “Zack Snyder’s Justice League” กลายเป็นไฮไลท์ของ HBO Max (HBO MAX) แฟน ๆ ก็ไม่รอช้า แต่ครั้งนี้ Snyder ไม่มา พร้อมด้วยฮีโร่ทุกตัว และไม่ได้พึ่งแบรนด์ DC ในตอนต้นเรื่อง แต่เขากลับคืนสู่รากฐานของเขาเหมือนกับภาพยนตร์ซอมบี้ เรื่อง There’s Dawn of the Dead ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เริ่มต้นอาชีพของเขาในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ในปี 2004
แต่แน่นอนว่า ผ่านมา 17 ปีแล้ว และภาพยนตร์ซอมบี้เริ่มสับสนและใช้งานไม่ได้จนแทบไม่มีเวลาให้ยืดหยุ่นหรือขยายได้ ทำให้ Army of the Dead กลายเป็นความท้าทายสำหรับสไนเดอร์ มันค่อนข้างท้าทาย คนที่ริเริ่มกระแสหนังซอมบี้เมื่อสองทศวรรษที่แล้วมีสิ่งใหม่ๆ นั่นคือสิ่งที่ถูกบอกเล่าในภาพยนตร์ปล้นซอมบี้เรื่องนี้
แผนปล้นซอมบี้เดือด สปอย
แผนปล้นซอมบี้เดือด หนังจะเล่าถึง สก็อต วอร์ด (เดฟ บอทิสตา – Dave Bautista) อดีตทหารรับจ้างที่ปัจจุบันกลายเป็นพ่อครัวในร้านอาหารที่วันดีคืนดีเขาก็ได้รับงานจาก บลาย ทานากะ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ – Hiroyuki Sanada) เศรษฐีที่เสนอเงินก้อนโตแลกกับการพามาร์ติน (แกร์เร็ต ดิลลาฮันต์ – Garret Dillahunt) คนของเขาไปที่ลาส เวกัสเพื่อขนเงินสดก้อนโตจากตู้เซฟในคาสิโนก่อนรัฐบาลจะปูพรมทิ้งระเบิด งานนี้เขาได้รวมทีมระดับพระกาฬอาทิ มาเรีย ครูซ (อนา เด ลา เรกูเอรา – Ana De La Reguera) อดีตคนรัก เคต วอร์ด (เอลลา เพอร์เนล – Ella Purnell) ลูกสาวที่เขาห่างเหินมานาน ลิลลี (นอรา อาร์เนเซเดอร์ – Nora Arnezeder) ไกด์หญิงสุดแกร่ง และสหายศึกสุดระห่ำฝ่าดงซอมบี้ในลาส เวกัส แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดนอกเหนือจากเหล่าซอมบี้ที่มีความฉลาดและระบบสังคมที่ซับซ้อนแล้วบางทีแผนปล้นครั้งนี้อาจแฝงอันตรายจากมนุษย์ด้วยกันเองก็เป็นได้
อย่างที่เกริ่นไว้แต่แรกว่าหนังซอมบี้เดินทางผ่านการดัดแปลงปะผุและเอาไปยำรวมกับหนังในประเภทอื่น ๆ มาแล้วแต่ทว่าใจความที่ไม่เคยเปลี่ยนของมันคือการวิพากษ์สังคมซึ่งทีมเขียนบทที่นำโดยสไนเดอร์ก็เหมือนจะรู้ดีว่าต้องหยิบจับประเด็นผู้อพยพและการอยู่ร่วมกันของมนุษย์หลากชาติพันธุ์มาเป็นแกนกลางของเรื่อง แต่ก็ยังไม่ทิ้งองค์ประกอบที่จะเอาใจคนดูยุคนี้ด้วยการประเคนฉากตื่นเต้นกระตุ้นอะดรีนาลีนอัดมาไม่ให้ว่างเว้นได้ค่อนข้างลงตัวแม้ว่าจะยังมีช่องโหว่จากการที่หนังเองก็แอบเล่นท่ายากด้วยการใส่ความซับซ้อนของกลไกการเมืองที่หนังอุตส่าห์ปูไว้แต่กลับไม่สานต่อทั้งอำนาจเหนือกฎหมายของมิสเตอร์บลาย ทานากะ หรือกระทั่งระบบสังคมซอมบี้ในเรื่องที่น่าสนใจมากแต่ก็ไม่ได้ลงลึกมากนักจนน่าเสียดาย มันเลยทำให้ความลึกของบทหนัง Army of the Dead ไปเน้นที่ความเป็นพ่อเป็นลูกของสก็อตและเคต วอร์ดแทน
กระนั้นเมื่อมันผ่านการกำกับของแซค สไนเดอร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องงานวิชวลไอ้ช่องโหว่ที่หนังมีรูพรุนเต็มไปหมดก็กลับถูกจังหวะในการเล่าเรื่องและเร้าอารมณ์คนดูของเขาพาเราหลุดเข้าสู่เกมการเอาตัวรอดผ่านคาแรกเตอร์ที่มีสีสันและมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์เหมือนสไนเดอร์เองก็รู้ว่าเราอยากเห็นฮิโรยูกิ ซานาดะรับบทผู้ทรงอิทธิพลร้ายลึกหรือได้เห็นอนา เด ลา เรกูเอรา ได้โชว์เสน่ห์แบบสาวละตินรุ่นใหญ่ แม้จะต้องมีตัวขายอย่างเดฟ บอทิสตาหรือเอลลา เพอร์เนลไว้เรียกแขกหน่อยก็ตามที
ว่ากันถึงทีมนักแสดงนอกจากเบอร์ใหญ่ที่เรากล่าวไปแล้วการแคสติงนักแสดงใน Army of the Dead ยังน่าสนใจด้วยการแคสนักแสดงหนุ่มข้ามเพศอย่าง ทิ๊ก โนตาโร (Tig Notaro) ในบทแมเรียน ปีเตอร์ส์ นักบินเฮลิคอปเตอร์สุดเท่จนกล่าวได้ว่าตัวละครในหนังเรื่องนี้น่าจะมีความหลากหลายทั้งเพศและชาติพันธุ์มากที่สุดแล้ว ส่วนโอมาริ ฮาร์ดวิก (Omari hardwick) ในบทแวนเดอโรห์ก็ทำให้บทบาทของตัวละครผิวสีดูมีเสน่ห์มากกว่าจะเป็นแค่ตัวประกอบได้ดีทีเดียวแต่กระนั้นแม้เดฟ บอทิสตากับเอลลา เพอร์เนลจะถูกใช้ชื่อเพื่อเรียกคนดูแต่พวกเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง บอทิสตาเองทำให้คนดูประจักษ์เลยว่าภายใต้ร่างกายอันบึกบึนมีหัวใจที่ต้องการไถ่บาปและสามารถมอบทั้งชีวิตให้ลูกสาวที่ห่างเหินได้จริง ๆ ส่วนเพอร์เนลนอกจากความสว่างของคาแรกเตอร์ที่ช่วยให้หนังดูมีความหวังแล้วการแสดงของเธอยังทำให้ด้านอ่อนโยนในหนังแอ็กชั่นสุดระห่ำเรื่องนี้ได้ปลอบประโลมและส่งความหวังให้คนดูได้เป็นอย่างดี
แผนปล้นซอมบี้เดือด Army of the Dead ยาวเกินไป และเช่นเดียวกับสไตล์การเดินเตร่ตามปกติของสไนเดอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้กระชับยิ่งขึ้นในบางจุด แต่ในบางจุดหนังลากยาวโดยไม่จำเป็น หนังมีความยาวเกือบสองชั่วโมงครึ่ง มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ฉันต้องยอมรับว่ามีช่วงเวลาในหนังเรื่องนี้ที่ฉันต้องเร่งความเร็วเป็นสองเท่า
นอกจากนี้ ยังมีโครงเรื่องมากมายในภาพยนตร์ที่ไม่ได้ทำให้คุณประทับใจจริงๆ ดราม่าของหนังไม่ได้ลึกซึ้งมาก ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ฉันต้องยอมรับว่าแซค สไนเดอร์มีพลังในการขับเคลื่อนตัวละครไปข้างหน้า และสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกมาได้ค่อนข้างดี น่าเสียดายที่มีตัวละครเพียงไม่กี่ตัวที่น่าจดจำ