เพื่อน(ไม่)สนิท

เพื่อน(ไม่)สนิท Not Friends เป็นหนังที่จะทำให้คุณคิดถึงเพื่อนๆ เพราะจะมีเพื่อนคนหนึ่งที่จะอยู่กับเราในจังหวะชีวิตที่มีความหมาย จนมันกลายเป็นความทรงจำที่คงอยู่ในความทรงจำและไม่มีวันลืม ภาพยนตร์เรื่อง Not Friends ยังได้รับเลือกให้เป็นภาพยนตร์ไทยในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 96 อีกด้วย

Not Friends ภาพยนตร์ดราม่าแนวตลกแนวโรงเรียนของ GDH อำนวยการสร้างโดย วัน-วรรณฤดี พงษ์สิทธิ์ศักดิ์ และบาส-ณัฐวุฒิ พูนพิริยะ กำกับโดย อรรถ เสาวดี นักแสดง : โทนี่-แอนโทนี่ บุยเซเรต์, จุ๊ม-พิศิษฐพร เอกพงศ์พิศิษฐ์, ใบโพธิ์-ฐิติยา จิราพรสิน, ฟลุค-ธนากร ติยานนท์ และ ฝน-ณัฐติชา จันทรวารีข พร้อมเข้าฉาย 26 ตุลาคม 2566 สามารถชมได้ในโรงภาพยนตร์

เรื่องย่อ เพื่อน(ไม่)สนิท

เพื่อน(ไม่)สนิท เป็นเรื่องราวของเป้ (โทนี่ แอนโทนี่) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ถูกพ่อกดดันให้สอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้ทราบข่าวการรับนักศึกษาจากหนังสั้นที่ส่งเข้าประกวด เขาจึงเกิดความคิดที่จะเล่าเรื่องของ โจ (จุ๊ม พิสิฐพล) เพื่อนสนิท (ไม่ใช่) ที่นั่งโต๊ะข้างๆกัน น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มาทำหนังสั้นด้วยความเชื่อที่ว่า “ทำหนังเกี่ยวกับคนตาย ไม่ว่าในกรณีใด มันซาบซึ้งจริงๆ” แต่เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเป้ไม่รู้เรื่องถ่ายเลย! นอกจากนี้ยังมีหนามที่มีรูปร่างคล้ายคนอย่างโบเก้ (ใบปอ ฐิติยา) เพื่อนสนิทของโจ

แสดงจิตวิญญาณของการนำเสนอ เลยขอความช่วยเหลือสร้างหนังสั้นเรื่องนี้ แต่เป้ ไม่รู้จะปฎิเสธยังไง นี่คือจุดเริ่มต้นของภารกิจที่ล้มเหลวในการสร้างหนังสั้นที่มีอนาคตของเป้เป็นเดิมพัน ด้วยความช่วยเหลือจากกลุ่มเนิร์ดหนังในห้องเสียง ภายใต้การควบคุมดูแลของทั้งโรงเรียนและความกดดันจากครอบครัวโจที่รอชมหนังสั้นสุดประทับใจของผู้ตาย แต่ขณะเดียวกันก็ทำหนังสั้นให้เพื่อนที่ไม่สนิทของเป้ด้วย เขาค้นพบ “ความลับ” บางอย่างที่โจซ่อนไว้ สิ่งนี้สามารถส่งผลต่อความทรงจำและความสัมพันธ์ในใจที่คุณเคยมีกับเพื่อนคนสำคัญคนนี้ตลอดไป

รายชื่อนักแสดง เพื่อน(ไม่)สนิท

  • โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์ รับบทเป็น เป้
  • จั๊มพ์-พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ รับบทเป็น โจ
  • ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์ รับบทเป็น โบเก้
  • ฟลุ๊ค-ธนกร ติยานนท์ รับบทเป็น ปิง
  • ฟ้อนด์-ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา รับบทเป็น หลิว

คุณเคยมี (ไม่ใช่) เพื่อนสนิทบ้างไหม? คุณยังจำเรื่องนั้นได้ไหม?

เมื่อ “เป้” (โทนี่ แอนโทนี่) นักเรียนชั้น ป.6 ถูกพ่อกดดันให้สอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้ทราบข่าวการรับนักศึกษาจากการทำหนังสั้นส่งเข้าประกวด เขาจึงเกิดไอเดียเล่าเรื่องของ “โจ้” (จุ๊มพ์ พิศิษฐพร) เพื่อนสนิท (ไม่ใช่) ที่นั่งโต๊ะข้างๆ กัน แต่น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มาทำหนังสั้นด้วยความเชื่อที่ว่า “ทำหนังเกี่ยวกับคนตาย ไม่ว่าในกรณีใดมันช่างซาบซึ้งจริงๆ” แต่เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเป้ไม่รู้เรื่องถ่ายหนัง! นอกจากนี้ยังมีหนามที่มีรูปร่างเหมือนคนอย่าง “โบเก้” (ใบปอ ฐิติยา) เพื่อนสนิทของโจอีกด้วย แสดงถึงจิตวิญญาณแห่งการนำเสนอ เลยขอช่วยทำหนังสั้นเรื่องนี้

แต่เป้ ไม่รู้จะปฎิเสธยังไง นี่เป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจที่ล้มเหลวในการสร้างหนังสั้นโดยมีอนาคตของเป้เป็นเดิมพัน ด้วยความช่วยเหลือจากกลุ่มเนิร์ดภาพยนตร์ในห้องเสียง ท่ามกลางการรับรู้ของทั้งโรงเรียนและความกดดันจากครอบครัวของโจ ผู้ที่รอชมผลงานหนังสั้นสุดประทับใจของผู้วายชนม์ แต่ขณะเดียวกัน การทำหนังสั้นให้เพื่อนที่ไม่สนิทของเป้ก็ทำให้เขาค้นพบ “ความลับ” บางอย่างที่โจปกปิดไว้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความทรงจำและความสัมพันธ์ในใจที่เคยมีต่อเพื่อนคนสำคัญคนนั้นตลอดไป

บทภาพยนตร์

จริงๆเรื่องนี้มีบทที่ดีนะ(ตอนต้น) เรียกได้ว่าเป็นหนังที่บันเทิงและสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของตัวละครตั้งแต่ตอนเริ่มต้นเลยทีเดียว พูดง่ายๆ ว่า “ไบโอชิปหายไปแต่เจอสกรูแล้ว” “จริงๆ มีทั้งอารมณ์ขันและอารมณ์ขัน ความสนุกในการถ่ายทำตัวละครในเรื่อง ผมพยายามจดจำ เนื้อเรื่องของเพื่อนที่ตายไปแล้วที่ทำหนังเรื่องนี้ เราดูแล้ว ที่มันแล้วคิดว่า ว้าว การใช้คนตายมาทำหนังมันไม่น่ากลัวเลย แถมรู้สึกเหมือนเพื่อนตายด้วย แต่เธอต้องรักเพื่อนคนนี้จริงๆ ฉันลงทุนกับเพื่อนคนนี้เยอะมาก แสดงว่าคนๆ นี้ ชื่อโจจะต้องมีคุณค่าหรือสำคัญกับทุกคน เพราะไม่ใช่แค่กลุ่มเพื่อนที่ทำหนัง แต่เพื่อนๆ ม.6 ของเราก็มารวมตัวกันช่วยกลุ่มนี้ทำหนังด้วย นั่นคือสิ่งที่ทำให้บทแรกมีอะไรที่โดนใจผมมากจริงๆ และสนุกกับมัน

ตรงกลางของเรื่องคือจุดเปลี่ยนของอารมณ์และโทนของเรื่องทั้งหมด

เพื่อน(ไม่)สนิท นั่นคือประเด็น แต่สิ่งดีๆ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว รูปแบบนี้ใช้ได้ในตัวอย่างภาพยนตร์ แต่ในช่วงกลางเรื่อง Cinema ก็ต้องพบกับเรื่องช็อค และน่าตกใจที่ปัญหานี้ไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาเลย เพราะมันอยู่ไกลกันมาก คำว่า “แฟน” และบริบทสมัยมัธยมปลายจึงถูกมองข้ามไปเป็นส่วนใหญ่ **สปอยล์** ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเติมให้อารมณ์เสีย มันเปลี่ยนวิธีการมองตัวละครของคุณ มันทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครตัวนี้มีคุณค่าจริงๆ หรือไม่เลยเวลาที่เราให้คุณค่ากับเขามากมายขนาดนี้ เพราะในตอนต้นเรื่อง พูห์ ปรากฏเป็นคนที่มีคุณค่าต่อทุกคนเป็นอย่างมาก และราวกับว่าหนังเรื่องนี้กำลังทรยศเรา ในสิ่งที่เรียกว่า “ชายเทา” ผู้อยากรวมความดีและความชั่วใส่ไว้! นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ หรือฉันต้องบอกคุณ? ไม่เช่นนั้นคุณจะต้องสร้างมันขึ้นมาจากทีเซอร์ภาพยนตร์ คุณทำอะไรแตกกลางเรื่อง? และผ่านไปได้ครึ่งเรื่องมันก็เริ่มทำงาน เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวละครนี้ แต่เขาประทับใจและไม่แยแสต่อความสัมพันธ์ของพวกเขามาก